ค้นหาทะเบียนรถ
ทำนายเลขทะเบียนรถ
เติมน้ำมันผิด...ปั๊มรับผิดชอบ แล้วประกันภัยจะรับอะไร
เมื่อ : 10/07/2561 18:10:43 ชม : 548

เติมน้ำมันผิด...ปั๊มรับผิดชอบ แล้วประกันภัยจะรับอะไร

 กรณีศึกษาจากรถเบนซ์คันหรู เพิ่งปลดป้ายแดงของไฮโซสาวรายหนึ่ง ประสบเหตุที่ไม่คาดคิดรับเขตเศรษฐกิจเสรีอาเซียน จากการเติมน้ำมันผิดพลาดของเด็กปั๊มชาวพม่าที่อาจเผอเรอ หรือแยกแยะไม่ออกว่ารถเบนซ์คันนี้ใช้ดีเซล แต่ทะลึ่งไปเติมเบนซินให้
 
       แน่นอนปัญหาแรกที่ต้องเจอได้คลี่คลายลงทันทีเมื่อผู้จัดการปั๊มน้ำมันยินยอมรับผิด และทำการอธิบายให้เจ้าของรถคลายความกังวลใจว่า กรณี
รถดีเซลเติมน้ำมันผิดเป็นเบนซินนั้น ไม่มีอะไรเสียหายแน่นอน อีกทั้งยังไม่ได้มีการสตาร์ทรถ ดังนั้นแค่ล้างถังก็ไม่มีปัญหาอะไร  
 
       พร้อมกับประเมินค่าใช้จ่ายล้างถัง และค่ารถลากไปศูนย์ฯเบนซ์ให้เสร็จสรรพว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ และยืนยันว่าเป็นค่าล้างถังในราคาศูนย์ฯเบนซ์
อีกต่างหาก เพียงเท่านี้ยังไม่พอยังอ้อนวอนให้รับข้อเสนอนี้และอย่าไปเอาเรื่องเด็กปั๊ม เพราะถ้าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเด็กปั๊มไม่มีปัญญาจ่ายแน่
 
       ด้วยความโลกสวยของไฮโซสาว เธอจึงตกลงกับเงื่อนไขที่เสนอมาพร้อมทำหนังสือประนีประนอมยอมความไม่เรียกค่าเสียหายใด ๆ กับปั๊มน้ำมัน และระหว่างเดินทางไปล้างรถที่ศูนย์ฯเบนซ์ที่เธอซื้อรถมา ทางศูนย์ฯแนะนำว่าควรแจ้งบริษัทประกันภัยทราบ เพราะกรณีการเติมน้ำมันผิดและมีความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวรถ บริษัทประกันภัยให้ความคุ้มครอง 
 
       ไฮโซสาวจึงแจ้งไปยังบริษัทประกันภัยทันที ซึ่งบริษัทประกันภัยก็ไม่ปฏิเสธความคุ้มครอง แต่ขอให้ไฮโซสาวนำรถเบนซ์เข้าไปที่ศูนย์ฯเบนซ์ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันภัย แต่ไฮโซสาวยังยืนยันที่จะเข้าศูนย์ฯเบนซ์ที่เธอซื้อมา ซึ่งไม่ได้เป็นคู่สัญญาของบริษัทประกันภัย เมื่อยืนยันอย่างนั้นทางบริษัทประกันภัยก็ยินยอม แต่ขอศูนย์ฯเบนซ์ประเมินค่าซ่อมมาให้พิจารณาก่อน
 
       เมื่อเดินทางมาถึงศูนย์ฯเบนซ์ โลกสวยของสาวไฮโซกลายเป็นโรคร้ายทางอารมณ์ทันที เมื่อช่างของศูนย์ฯเบนซ์ประเมินในเบื้องต้นว่า น่าจะมีค่าใช้จ่ายในการทำให้กลับมาสู่สภาพเดิมเฉียดแสน และเชื่อว่าน่าจะมีโอกาสเกิดความเสียหายอีกในอนาคต 
 
       เพียงเท่านี้ยังไม่พอเมื่อเสนอใบประเมินค่าซ่อมกับบริษัทประกัน และชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กลับโดนบริษัทประกันภัยปฏิเสธความคุ้มครองด้วย สองข้อหา คือไม่แจ้งเหตุที่เกิดกับบริษัทประกันภัยทันที และไปทำความตกลงกับคู่กรณีโดยไม่ได้แจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบก่อน ซึ่งเป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย
 
       โลกสวยสาวไฮโซจึงกลายเป็นโลกแห่งการเรียนรู้เมื่อได้สอบถามมาว่า เธอทำผิดเงื่อนไขประกันภัยจริงหรือ และควรดำเนินการอย่างไรต่อไป ประเด็นนี้เราต้องมารับรู้ก่อนว่าในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่า เมื่อเกิดเหตุต้องแจ้งบริษัทประกันภัยโดยไม่ชักช้านั้นมันมีความหมายอย่างไรและเพื่ออะไร
 
 
       คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ตามคำสั่งนายทะเบียนประกันภัยซึ่งถือเป็นกฎหมายได้อธิบายไว้ว่า การแจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า หมายถึงผู้ขับขี่หรือผู้เอาประกันภัย จะต้องแจ้งให้บริษัทผู้รับประกันภัยทราบถึงสาเหตุของความสูญหาย หรือความเสียหายหรือความรับผิดตามกฎหมายที่เกิดขึ้นในทันทีที่สามารถแจ้งได้ เพื่อให้บริษัทฯได้ทำการตรวจสอบความเสียหายที่แท้จริง และหรือปกป้องความเสียหายที่เกิดขึ้นมิให้ความเสียหายขยาย
หรือเพิ่มขึ้นได้
 
       แต่อย่างไรก็ตามการแจงเหตุล่าช้า ไม่เป็นเหตุให้บริษัทปฏิเสธความรับผิดได้ แต่หากบริษัทได้รับความเสียหายเนื่องจากแจ้งเหตุล่าช้านั้น บริษัทสามารถเรียกร้องจากผู้เอาประกันภัยและผู้ขับขี่นั้นได้ ซึ่งการตีความนี้เป็นไปในลักษณะเดียวกันกับบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 881
 
       ถ้ามิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อน ผู้รับประกันภัยอาจเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การนั้นได้ เว้นแต่อีกฝ่ายหนึ่งจะพิสูจน์ได้ว่าไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้
 
       ข้อหาแรกจึงมาพิจารณากันในสองกรณี ไฮโซสาวแจ้งชักช้าหรือไม่ และบริษัทประกันภัยเกิดความเสียหายหรือไม่ ประเด็นว่าเป็นการชักช้าหรือไม่ คงเป็นคำตอบที่แจ่มชัดและไม่ต้องตีความว่า ‘ไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้’ อาทิ ได้กลิ่นน้ำมันสลบไป 2-3 วัน แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าไฮโซสาวได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาของเธออย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ไม่ได้แจ้งบริษัทประกันภัยเป็นลำดับแรกเท่านั้นเอง อีกทั้งความเสียหายของรถยนต์ก็ไม่ลุกลาม เพราะยังไม่มีการสตาร์ทรถหรือมีผลความเสียหายต่อเนื่องอย่างอื่นจากการเคลื่อนย้าย
 
       สำหรับข้อหาที่ 2 ไปตกลงยินยอมยอมความโดยไม่แจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง คู่มือตีความกรมธรรม์ฯ ในข้อ 10 การจัดการเรียกร้อง ระบุว่าผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ตกลงยินยอม เสนอ หรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใด โดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท เว้นแต่ความเสียหายนั้น ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายที่จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายและบริษัทไม่จัดการเรียกร้องนั้น
 
       อะแฮ่ม! คู่มือตีความจะมาใหญ่กว่าคำพิพากษาศาลฎีกาได้อย่างไร คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2534 เงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า ผู้เอาประกันภัยจะไม่ตกลงยินยอม เสนอ หรือให้สัญญาจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมของบริษัท เว้นแต่บริษัทมิได้จัดการต่อการเรียกร้องนั้น 
 
       หมายถึงกรณีบุคคลอื่นเรียกร้องผู้เอาประกันภัยชดใช้ค่าเสียหาย ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่กระทำการใด ๆ ตามเงื่อนไขดังกล่าว เพื่อป้องกันมิให้ผู้เอาประกันภัยก่อหนี้อันอาจผูกพันบริษัทที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลภายนอกโดยบริษัทไม่ยินยอม หาใช่เป็นเงื่อนไขที่ห้ามมิให้ผู้เอาประกันภัยสละสิทธิเรียกร้องแก่บุคคลใดอันจะมีผลถึงการรับช่วงสิทธิไล่เบี้ยไม่การที่คนขับรถยนต์ผู้เอาประกันภัยได้ตกลงกับคู่กรณีโดยต่างฝ่ายสละสิทธิเรียกร้องต่อกัน ก็มิใช่ยินยอม เสนอ หรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลใดตามกรมธรรม์ดังกล่าว ผู้เอาประกันภัยจึงไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยนั่นก็หมายความว่าไฮโซสาวรายนี้ จะต้องได้รับความคุ้มครองตามความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าความเสียหายเท่าไหร่ (แต่ไม่เกินทุนประกันภัย)
 
       และที่สำคัญไฮโซสาวได้แสดงให้เห็พฤติกรรมที่เป็นหลักการสำคัญของระบบประกันภัย ‘หลักสุจริตใจ’ โดยการแจ้งข้อเท็จจริงอย่างไม่ปิดบังและไม่ได้เม้มเงินค่าเสียหายที่ได้รับมาส่วนบริษัทประกันภัยจะอาศัยหลักประกันภัยค้ำจุน รับช่วงสิทธิไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มจากเจ้าของปั๊มน้ำมันที่ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความไว้ก่อนหน้าแล้วได้หรือไม่ ปล่อยให้เป็นชะตากรรมของบริษัทประกันภัยไปเถอะ!

 

Tabienrod.Online © 2024 บริษัท ออนไลน์ขายดี จำกัด สถานที่ปฏิบัติงาน กรมการขนส่งทางบก จตุจักร กรุงเทพ
บอทตัวล่าสุดที่เข้ามาเก็บข้อมูล คือ
Google (66.249.75.234) วันนี้ เวลา 13.27 น.