รถติดแก๊ส มีวิธีดูแลรักษาที่ถูกต้องอย่างไร ? ไปชมกัน
ดูแลเรื่องของกลิ่นแก๊สรั่วอย่างเป็นประจำ ซึ่งการตรวจเช็คกลิ่นแก๊สรั่วนั้นสามารถตรวจเช็คพร้อมกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทีเดียวเลยก็ได้
ใช้สารหล่อเย็นที่มีคุณภาพ และต้องตรวจเช็คน้ำในระบบหล่อเย็นให้มีระดับน้ำที่อยู่ในระดับปกติตลอดเวลา
สั่งเกตุการรั่วซึมของระบบน้ำหรือน้ำมัน หากมีการรั่วของระบบน้ำหรือระบบน้ำมันควรรีปทำการแก้ไขทันที
ระดับน้ำมันเครื่อง และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามกำหนดทุกครั้งสำหรับรถที่ติดแก๊สก็สามารถเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ถูกผลิตมาเพื่อรถติดแก๊สโดยเฉพาะก็ได้เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์
ทำความสะอาดไส้กรอง ระยะเวลาการทำความสะอาดไส้กรองควรทำความสะอาดทุกๆ ระยะ 5,000 กิโลเมตร
เปลี่ยนหัวเทียน การเปลี่ยนหัวเทียนควรเปลี่ยน ทุกๆ 20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี และล้างหม้อต้มแก๊สด้วย
ตั้งบ่าวาล์วไอเสีย เมื่อมีการใช้งานครบระยะ 40,000 -60,000 กม. และควรใช้น้ำมันสลับกับการใช้แก๊สเพื่อให้น้ำมันนั้นเคลือบบ่าวาล์วบ้าง
ตรวจเช็คความสมบูรณ์ของหม้อต้มแก๊ส การล้างหม้อต้มควรทำเมื่อใช้งานไปในระยะ 12-18 เดือน
เช็คสภาพหรือเปลี่ยนติ๊กแก๊ส ปั๊มติ๊กน้ำมัน ทุกๆ3ปี หรือเมื่อมีการใช้งานถึง 30,000 - 50,000 กม.
ตรวจเช็ครอยแก๊สรั่วซึม โดยใช้น้ำสบู่หยอดตามข้อต่อจุดต่างๆในขณะที่ระบบแก๊สมีการทำงานอยู่ หากไม่มั่นใจให้เข้าศูนย์ติดตั้งแก๊สเพื่อตรวจเช็ค
ควรเติมน้ำมันไว้เกิน 1ส่วน4ของถังเพื่อไว้ใช้สำรองตอนแก๊สหมดและป้องกันการเกิดสนิมในถังน้ำมัน และยังสามารถป้องกันการพังของปั๊มติ๊กน้ำมันได้เช่นกัน
ใช้น้ำมันสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนทุกเครื่อง และก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ควรเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบน้ำมันก่อนเพื่อ รักษาประสิธทิภาพเครื่องยนต์
หากจำเป็นต้องจอดรถนาน ก่อนดับเครื่องควรใช้เป็นระบบน้ำมันเพื่อป้องกันไม่ให้ หัวฉีดและกระบอกสูบแห้งเกินไป
เข้าตรวจเช็คแก๊สเมื่อครบระยะ ตามศูนย์บริการติดแก็สหรืออู่ที่ไว้ใจได้ เท่านั้นเพื่อให้ได้รับการตรวจเช็คที่ถูกวิธี
เติมแก๊สจากสถานีบริการที่มีมาตรฐาน เท่านั้นเพื่อให้ได้แก๊สที่มีคุณภาพ
ห้ามต่อพ่วงกับถังแก๊สหุงต้มที่ใช้ในบ้าน เพราะการต่อใช้แบบนี้สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้หากไม่่มีการทำที่ทุกวิธี
ระวังการเกิด BackFire ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับรถที่แก๊สระบบ Mixer และไม่ควรขับรถแบบรุนแรงและกดคันเร่งเฉียบพลัน
อย่าปรับจูนแก๊สจนบางเกินไป เพราะการปรับจูนแก๊สบางไปนั้นจะทำให้ความร้อนในห้องเครื่องสูงและอาจจะส่งผลต่อเครื่องยนต์ด้วยเช่นกัน